Friday, February 9, 2018

Visoot Charoenporn , Penchan Premwut Artists




                                                         วิสูตร   เจริญพร :  ศิลปิน 







           Picture  from my shot, when first meet up Visoot Charoenporn 2005 .At 700 years Stadium ChiangMai in the Afternoon .

















Mae Taeng Studio : Visoot Charoen porn 







For a long time, it was my intention and strong desire to visit Mr. Visoot Charoenporn, my painting mentor, especially when he had moved from Bangkok to Chiang Mai 20 years ago. He also has his parent's house on the beach in Prachuapkhirikhan, a province in the South of Thailand, where he had grown up. What fascinates me is what fascinates him and his family to spend so much time living in Chiang Mai? For me, this is an intriguing story.
Mr. Visoot told me: "Weather in Chiang Mai is very good. All three seasons, Summer, Rainy Season and Winter, are appropriate. These are natural changes that spice up people's lives. The mountains here are very charming, beautiful and the size of them is very suitable. The beauty of this area's colors and nature can be captured on canvas in many fulfilling ways". I agreed with his comment and when I visited him, I saw paintings of the Doi Luang Chiang Dao and Doi Inthanont mountains which are quite beautiful and obviously provide memories he treasures.




@ Khun Penchan Premwut 


















Khun Penchan Premwuthi, his wife, a Silpakorn alumna, graduated in the same year as her husband. Both of them were students of Professor Silp Perasri (Corrado Feroci), the well-known sculptor from Florence, Italy who is regarded as the "father" of contemporary Arts in Thailand.  He once said "Art is forever but life is short."  

Not only is Khun Visoot Charoenporn a famous sculptor of Buddha statues but he is also a preeminent painter in Thailand and recognized as such internationally.



                                               



                                                                                                   จานีน ยโสวันต์


เป็นเวลานานแล้ว นั่นเป็นความตั้งใจและความต้องการอย่างมากที่จะไปเยี่ยมคุณ
วิสูตร เจริญพร อาจารย์ผู้สอนวาดรูปของดิฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เขา
ย้ายจากกรุงเทพมาเชียงใหม่เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เขาพักอาศัยที่บ้านของพ่อแม่
บริเวณชายหาดของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทางภาคใต้ของประเทศไทยซึ่งเป็น
สถานที่เขาเติบโตมา สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับดิฉันก็คือสิ่งที่สร้างความ
ประทับใจให้กับเขาและครอบครัวจนใช้เวลามากมายอาศัยอยู่ในเชียงใหม่ สำหรับ
ดิฉันแล้วนี่เป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก


คุณวิสูตรบอกกับดิฉันว่า "อากาศในเชียงใหม่ดีมาก ฤดูทั้งสาม ร้อน ฝนและหนาว
นั้นเหมาะสม สิ่งนี้เป็นความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่เติมสีสันให้กับชีวิตคน
ภูเขาที่นี่มีเสน่ห์มาก สวยงามและขนาดกำลังดี ความงามของสีในบริเวณพื้นที่นี้
และธรรมชาติสามารถเก็บเอาไว้บนผืนผ้าใบในวิถีทางที่สมบูรณ์" ดิฉันเห็นด้วยกับ
ความเห็นของเขาและเมื่อดิฉันไปเยี่ยมเขาก็ได้เห็นภาพเขียนรูปดอยหลวงเชียง
ดาวและดอยอินทนนท์ซึ่งสวยงามมากและได้แสดงความทรงจำที่เขาหวงแหนไว้
อย่างชัดเจน


คุณเพ็ญจันทร์ เปรมวุฒิ ภรรยาของเขาก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยศิลปากรที่จบ
การศึกษาในปีเดียวกันกับสามี ทั้งคู่เป็นลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
(คอราโด เฟอโรชี่) ช่างปั้นที่มีชื่อเสียงจากเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลีผู้ซึ่ง
ได้รับการขนานนามว่าเป็น"บิดา"ของศิลปกรรมร่วมสมัยในประเทศไทย ท่านเคย
กล่าวเอาไว้ว่า "ศิลปะนั้นอยู่ไปตลอดกาลแต่ชีวิตนั้นแสนสั้น"


ไม่เพียงแต่คุณวิสูตรจะเป็นช่างปั้นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงเท่านั้นแต่เขาก็ยังเป็น
ช่างเขียนภาพที่โดดเด่นคนหนึ่งในประเทศไทยและเป็นที่รู้จักในระดับสากล






















































































































































 From this gifted family, I learned about the arts and ways of living a good life. I learned how to paint and eat macrobiotic food which is a valuable option for healthy and happy living. They also inspired me to shape and arrange my house the way an artist would.
Khun Visoot Charoenporn likes to exercise a great deal  by cycling. This is how I met him in Chiang Mai stadium at the 700th anniversary of Chiang Mai's founding. I became his painting student after I returned from a trip to Bali. I told him that I would paint what I saw in Bali and he, with great kindness, agreed to check my work frequently with his niece for months until I stopped painting.  When I did, I had 78 oil paintings of many sizes on canvas.
Once, I was informed that Khun Visoot was quite ill but he refused to let me visit him in the hospital. However, during the first month of 2010, he went to the hospital again, but this time allowed me to meet him there. I was delighted and found that many of his friends came to visit him as well. He had changed. He was pleased to see me and told me that he built another house near his old place for resting and health recovery. He offered to allow me to go there anytime when he can be at home after his hospital stay.


The route to Mae Malai – Pai
I drove there for 70 Km on a sunny day. I had a chance to see the house of an artist who, interestingly enough, is also the president of the "land and house development" including the golf course in the area called, Viang Ping Villa Golf Club which was recently sold to the land and house company.
Finally I arrived at his house after I lost my way for many kilometers and turned back to the correct route in the end. From the main road, I saw houses with many bicycles and I was sure that those were his homes.









จากครอบครัวที่มีพรสวรรค์นี้
ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะและการรับประทานอาหารแมโครไบโอติกส์ซึ่งเป็น
ทางเลือกที่มีค่าสำหรับการมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุข พวกเขายังเป็นแรง
บันดาลใจให้ดิฉันเปลี่ยนรูปแบบและจัดเตรียมบ้านให้เป็นแบบที่ศิลปินพึงจะทำ
คุณวิสูตรชอบที่จะออกกำลังกายอย่างมากด้วยการถีบจักรยาน และนี่เป็นวิธีที่ดิฉัน
พบเขาที่สนามกีฬาสมโภชเมืองเชียงใหม่ 700 ปี ดิฉันกลายเป็นลูกศิษย์ของเขา
ภายหลังที่ดิฉันเดินทางกลับมาจากบาหลี ดิฉันบอกกับเขาว่าดิฉันจะเขียนสิ่งที่ได้
เห็นมาจากบาหลี และเขาก็ตกลงที่จะตรวจงานของดิฉันอยู่หลายเดือนจนกระทั่ง
ดิฉันหยุดเขียนภาพ ซึ่งเมื่อตอนนั้นดิฉันได้วาดภาพเขียนสีน้ำมัน 78 ภาพในกรอบ
ผืนผ้าใบหลายขนาด
เมื่อดิฉันได้ทราบว่าคุณวิสูตรไม่สบายแต่เขาปฏิเสธให้ดิฉันไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางเดือนแรกของปีพ.ศ. 2553 เขาได้เข้าโรงพยาบาล
อีกครั้งแต่ในครั้งนี้เขายอมให้ดิฉันไปพบเขาที่นั่น ดิฉันรู้สึกยินดีมากและพบว่า
เพื่อนเขาหลายคนก็มาเยี่ยมเช่นกัน เขาเปลี่ยนไปแล้ว เขารู้สึกยินดีที่เจอดิฉันและ
บอกว่าเขาได้สร้างบ้านอีกหลังหนึ่งไว้ใกล้กับบ้านเดิมเพื่อการพักผ่อนและรักษาตัว
เขาเสนอให้ดิฉันไปเยี่ยมบ้านเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อเขาอยู่ที่บ้านหลังจากออกจาก
โรงพยาบาล










เส้นทางสู่แม่มาลัย-ปาย
ดิฉันขับรถไปที่นั่นเป็นระยะทาง 70 กิโลเมตรในวันท้องฟ้าปลอดโปร่ง ดิฉันได้มี
โอกาสได้เห็นบ้านของศิลปินที่เป็นประธานของโครงการบ้านและที่ดิน
รวมทั้งพื้นที่ๆสโมสรสนามกอลฟ์ที่เรียกว่าเวียงพิงค์ วิลล่า กอลฟ์คลับที่พึ่งจะขาย
ให้กับบริษัทโครงการแลนด์แอนด์เฮ้าส์
ในที่สุดดิฉันก็มาถึงบ้านหลังจากที่หลงทางไปหลายกิโลเมตรและขับย้อนกลับมา
ในเส้นทางที่ถูกต้องได้ในที่สุด จากถนนสายหลักดิฉันเห็นบ้านที่มีจักรยานหลาย
คันก็แน่ใจแล้วว่าเป็นบ้านของเขา ผู้หญิงคนหนึ่งยืนทักทายดิฉันจากระเบียงบ้าน
ดิฉันและบุตรชายทักทายตอบก็เห็นภาพวาดดอกไม้บนผนังมากมาย เธอก็คือคุณ
เพ็ญจันทร์ ภรรยาของคุณวิสูตร

No comments:

Post a Comment

Besame Mucho