An Asean cultural festival kicked off on Friday to promote Melayu culture and tradition.
The “Melayu Day @Yala” festival was co-hosted by Consuls General of Malaysia and Indonesia in Songkhla, the Embassy of Brunei, the Yala Provincial Culture Office and Yala Municipality. Yala Mayor Pongsak Yingchoncharoen said the festival began in 2014 to highlight Melayu culture of Yala. After its debut, the event captured the interest of various sectors, leading to offers to be co-organisers in the following years. The event, now in its fifth year, features Melayu cultural parades from Malaysia, Indonesia and Brunei, a seminar on Melayu language, an elephant parade, a kite-flying competition, a Thai-Malayu speech contest, local cooking demonstrations, and cultural performances from Malaysia and Indonesia to highlight the cultural harmony.
Melayu Day@Yala will take place until Sunday at White Elephant Park, Yala Municipality.
Waearong Arun Waeno :Artist
เทศบาลนครยะลาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย และสถานกงสุลอินโดนีเซีย กำหนดจัดงาน Melayu Day @Yala ระหว่างวันที่ 10-12 ก.พ. ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก เพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมมลายู และร่วมอนุรักษ์ประเพณีอันดีงาม
เทศบาลนครยะลาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย และสถานกงสุลอินโดนีเซีย กำหนดจัดงาน Melayu Day @Yala ระหว่างวันที่ 10-12 ก.พ. ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก เพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมมลายู และร่วมอนุรักษ์ประเพณีอันดีงาม
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดยะลาเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยวิถีและวัฒนธรรมมลายูมาอย่างยาวนาน ทั้งในเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา อาหารการกิน การแต่งกาย ฯ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผสมกลมกลืน นับเป็น อัตลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดยะลาที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเทศบาลนครยะลากำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายที่เสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างได้อย่างสันติสุข จึงได้เริ่มจัดงาน Melayu Day of Yala ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2557 เป็นการจัดงานเพื่อรวบรวมและเผยแพร่วัฒนธรรมมลายูในท้องถิ่นให้ประชาชนได้รับรู้และมีส่วนร่วม แต่ผลการตอบรับที่ได้กลับมานั้นเหนือความคาดหมาย มีหลายๆ หน่วยงานที่ให้ความสนใจและแสดงเจตจำนงที่จะเข้ามาร่วมจัดงานในครั้งต่อไป เทศบาลนครยะลาจึงมีแนวคิดที่จะจัดงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้นในระดับอาเซียน ในปีที่สองจึงได้ขอเข้าพบกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา และกงสุลอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา เพื่อปรึกษาหารือและเชื้อเชิญทั้ง 2 ประเทศให้เข้ามาร่วมจัดงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และจัดยิ่งใหญ่ขึ้นในปีที่ 3 โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Melayu Day @Yala เพื่อเปิดกว้างให้จังหวัดอื่นๆ ในประเทศ และประเทศต่างๆ เข้ามาร่วมงาน
ในปีนี้เทศบาลนครยะลาได้จัดงานต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 โดยเปิดพื้นที่นครยะลาให้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมมลายู ภายใต้แนวคิดการสร้างสังคมสมานฉันท์ หรือ Harmonized City โดยมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การสัมมนาโลกมลายู การแข่งขันและประกวดว่าว ขบวนแห่ช้างและวัฒนธรรมมลายู การประกวดกล่าวสุนทรพจน์ (ไทย-มลายู) การประกวดเพลงอนาซีด Choral speaking และโดยเฉพาะการสนับสนุนการแสดง การสาธิตการทำอาหาร นิทรรศการ และขบวนพาเหรดจากประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย ที่แสดงออกถึงประเพณีและวัฒนธรรมมลายูของทั้ง 2 ประเทศ นับเป็นการเปิดประตูอาเซียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง นอกจากนี้จะได้ชมการแสดงอนาซีดจากวง Wsean วง Inteam และ วง Daqmie ประเทศมาเลเซียที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
ขอขอบคุณอดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและ ภรรยาแห่งประเทศบรูไนดารุสสาลาม ที่ได้สนันสนุนผลงาน มัสยิด 300 ปี ตือโล๊ะมาเน๊าะ ในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้ร่วมWorkshop ร่วมกับกลุ่มศิลปินSouth free art อีกด้วย ในงานมลายูเดย์@ยะลา 9-11ที่ผ่านมา
Khunlaharn Museum Narathiwat Province
Thank you :Khun Rasmin Nititham
No comments:
Post a Comment